OCZ Agility 4 SATA 6Gbps เสถียรภาพที่มาพร้อมความแรง
OCZ Agility 4 SATA IIIเ
ป็นโซลิดสเตจไดร์ฟในกลุ่มสายเลือดใหม่ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน
เน้นกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการอัพเกรดประสิทธิของระบบด้วยฮาร์ดไดร์ฟ
ภายใต้งบประมาณที่ไม่แพงมากนัก โดยมีความจุให้เลือกใช้งานมากถึง 4 ระดับ
คือ ความจุขนาด 64GB, 128GB, 256GB และ 512GB
สำหรับงานออกแบบภายนอกของตัวไดร์ฟนั้นจะมีการออกแบบที่เหมือนๆ กับตัว SSD
ทุกรุ่นที่มีจำหน่ายในตอนนี้ของ OCZ
ข้อแตกต่างที่ดูเหมือนเป็นการบ่งบอกถึงเกรดของสินค้าที่สามารถสังเกตได้
ก็คงจะเป็นเรื่องของวัสดุการออกแบบฝาปิดด้านหน้าที่เป็นแผ่นพลาสติกสีดำ
ไม่ได้เป็นอลูมิเนียมทั้งตัวเหมือนอย่าง SSD ในกลุ่มระดับสูงที่เราพบเห็น
ส่วนตำแหน่งการวางของช่อง SATA และ SATA POWER
นั้นยังอยู่ในตำแหน่งมาตรฐาน ส่วนภายในนั้นจะเป็นการนำเอาชุดควบคุม SSD
Controller Indilinx Everest II และ NAND Flash ประเภท MLC ASynchronous
ที่ใช้กระบวนการผลิตขนาด 25 นาโนเมตรมาใช้งานเหมือนเช่นเดิม
โดยมีความเร็วในการอ่าน (Read) สูงสุดที่ 400MB/s และ
มีความเร็วในการเขียน (Write) สูงสุดที่ 400MB/s ส่วนหากเป็นการ Random
4KB จะมีประสิทธิภาพในระดับ 85,000 IOPS สำหรับการเขียน และ 48,000 IOPS
สำหรับการอ่าน นอกจากนั้นตัวไดร์ฟก็ยังมีอายุการทำงานเฉลี่ยที่ 2
ล้านชั่วโมง รองรับแรงสั่นสะเทือนได้สูงสุดที่ 1500G ใช้พลังงานโหมด Idle
ที่ 1.3 วัตต์ และโหมด Active ที่ 2.5 วัตต์ พร้อมอุณหภูมิการทำงานตั้งแต่
0-70 องศา รองรับการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows XP, Vista, 7
(32/64 bit), Linux, Mac OSX และ สนับสนุนการทำงานในระบบ RAID ทุกรูปแบบ
นอกจากนั้นก็ยังมีการติดตั้งคุณสมบัติ NDurance™2.0 technology
ที่ได้รับการพัฒนาใหม่สำหรับรักษาเสถียรภาพของ NAND flash memory
เมื่ออยู่ในสภาวะโหลดแบบหนักหน่วงมาให้ควบคู่กับฟังก์ชัน TRIM เหมือนเดิม
ซึ่งช่วยทำให้ตัวไดร์ฟปลอดจากข้อมูลขยะที่อาจจะทำให้ตัวไดร์ฟทำงานช้าลง
เมื่อมีการใช้งานข้อมูลมากๆ นั่นเอง
ในช่วงการทดสอบก็ยังคงเหมือนกับการทดสอบ HDD ทั่วไปไม่มีความแตกต่าง
แค่เสียบตัว OCZ Agility 4 เข้ากับช่อง SATA III และเสียบสาย SATA Power
ก็สามารถใช้งานได้ทันที โดยเมนบอร์ดที่เราใช้ทดสอบนั้นจะรองรับพอร์ต SATA
III หรือ SATA 6Gbps ได้โดยตรง จึงทำให้การรีดประสิทธิภาพไม่เกิดข้อจำกัด
โดยเมื่อฟอร์ตแมตตัวไดร์ฟแล้วจะมีพื้นที่ให้เหลือใช้งานประมาณ 238GB
หายไปประมาณ 18GB สำหรับวางโครงสร้างในแบบ NTFS สำหรับประสิทธิภาพของ OCZ
Agility 4 ตัวนี้
จากที่ได้ลองสัมผัสเบื้องต้นถือว่ามีความเร็วการทำงานที่แรงใช้ได้ เด่นๆ
น่าจะเป็นความเร็วในการเขียนข้อมูลที่จัดได้ว่าไม่เป็นรองใคร
เพราะจากที่ได้ลองทำงานร่วมกับโปรแกรมหลายๆ ตัว เช่น SiSoftware Sandra,
CrystalDiskMark, AIDA64 ,HD Tach ,HD Tune Pro
ก็ให้ผลการทดสอบที่อยู่ในแนวทางเดียวกัน
ถือว่ามีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.ocztechnology.com.